เป็นรูปสำริดขนาดใหญ่
ของพระอาทิตย์ หรือ เฮลิออส หล่อด้วยทองบรอนซ์ ในท่ายืน
สูงประมาณ
32 เมตร โดยเฉพาะฐานที่รองรับ รูปหล่อนั้นสูงกว่า ตึก 5 ชั้น มือขวา
ถือดวงประทีป
เชื่อว่าเป็นรูปปั้นที่ คอยกั้นอ่าวของเกาะแห่งนี้ของกรีก ในทะเลเอเจียน
สร้างเสร็จ
หลังจากใช้เวลา 12 ปี แล้วเสร็จเมื่อประมาณ 28 ปี ก่อนคริสตกาล และต้อง
พังทลาย
เพราะแผ่นดินไหวอีก เมื่อผ่านไป 60 ปี และถูกทอดทิ้งเป็นเวลา 900 ปี จึงถูก
ขายเป็นเศษเหล็ก
ให้แก่ชาวเมืองซาราเซน นำไปใช้เพื่อ ประโยชน์ในการสงคราม
ประวัติความเป็นมาของรูปปั้นมหึมานี้
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยปี
312 ก่อนคริสตกาล ชาวเกาะโรดส์ได้ตัดสินใจ
ร่วมรบกับพระเจ้าปโตเลมีแห่งอียิปต์
จากการรุกรานของชาวแมซีโดเนียน
พวกแมซีโดเนียนเข้าล้อมเกาะไว้ด้วยเรือและทหาร
มากมาย
แต่ชาวเกาะโรดส์ก็ได้ตีกลับ
และเกิดการปะทะกันอยู่เกือบปีจนได้รับชัยชนะ
ในบรรดาผู้ที่ร่วมปกป้องเกาะโรดส์ก็มี
ปฏิมากรผู้หนึ่งชื่อว่า ชาเรส
แห่ง
ลินดัส ด้วยความยินดีปรีดาของชาวโรดส์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการ หลุดพ้นจากชาว
แมซีโดเนียน ชาร์เรส จึงได้รับมอบหมายให้สร้างรูปปั้น
บรอนซ์มหึมาของเทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์หรืออพอลโล
ฮลิออส
หรือ อพอลโล เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะของชาวกรีกและโรมันสมัยโบราณ
ถือกันว่าสวยที่สุดในจำพวกผู้ชาย รูปปั้นนี้
มีชื่อว่า
โคลอสซัส หล่อขึ้นมาจากโลหะต่าง ๆ ที่เหลือจากการสงครามและชาวแมซีเนียนทิ้งไว้
ชาเรสทำงานหนักตลอดเวลา 12 ปี
ทุ่มเทให้กับรูปปั้นนี้
แต่มีเรื่องเล่าว่าพอรูปปั้นนี้เสร็จเขาก็ได้พบว่าคำนวณสัดส่วนผิดไป
ชาเรสผิดหวังมากถึงกับปลิดชีพตัวเอง
แต่รูปปั้นโคลอสซัสนี้ก็มีชื่อเสียงมากถึงกับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น